ปกติเมื่อก่อนนี้ผมจะใช้งานกล้องดิจิทัล ซึ่งตอนนี้ก็ใช้อยู่ เป็นกล้องแบบ Compact ประเภท DSLR Like ตัวเล็กน่ารักดูคล้ายกับ DSLR แต่น้ำหนักเบากว่ามากมาย และความสามารถก็เยอะใช้ย่อยอย่าง Panasonic Lumix FZ200 ที่มีจุดเด่นที่เลนส์ซูมได้ 24 เท่าแต่ F2.8 นิ่งตลอดช่วง ซึ่งอายุของกล้องตอนนี้ก็ปาไปปีที่ 3 แต่ทุกอย่างยังใช้ได้ จนกระทั่งผมขอยืมกล้องจากทาง Panasonic มา 2 ตัวคือ GF8 เดี๋ยวจะมีรีวิวให้ได้ชมอีกทาง ITCoolgang.com และเล่าเบา ๆ ที่นี่ และอีกรุ่นคือ FZ300 เอามาเทียบกันที่นี่เท่านั้น มันจะดีไหมและถ้ากำเงิน 20900 คุ้มไหม รวมถึง ถ้าคุณใช้รุ่นเดิมอยู่จะดีหรือเปล่าถ้าคิดจะเปลี่ยน มาพบคำตอบเหล่านั้นกันเลย
ของใหม่ฟีเจอร์เยอะมาก
ถ้าพูดถึงฟีเจอร์ของ FZ300 เริ่มจากบอดี้ของตัวเครื่องก่อนที่มีความสามารถในการกันน้ำ ไม่ใข่ดำน้ำเหมือน Galaxy S7 นะ แต่มันคือการโดนฝนแล้วสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง ถ้าเป็นกล้องตัวอื่น หรือรุ่นเก่างกว่านี้อาจจะมีอาการเอ๋อ ๆ แต่ผมยังไม่เคยเจอ ทั้ง ๆ ที่โดนฝนมาแล้วเหมือนกัน
ส่ิงต่อมาคือหน้าจอ Touch Screen 3 นิ้วก็เป็นสิ่งที่มากับรุ่นนี้ครั้งแรก นอกจากนั้นยังได้ WiFi ช่วยในการส่งหรือ Remote ภาพอีกด้วย แต่ถ้านั่นยังไม่พอแล้วล่ะก็ ยังมีเรื่องของการถ่ายภาพแบบ Past Focus ซึ่งกล้องจะจับภาพแล้วเลือกจุดโฟกัสทั้งหมด เราสามารถเลือกมาจิ้มที่หลังได้ แต่ภาพเป็นแบบ MP4 จะแชร์ได้ก็ต่อเมื่อเลือกโฟกัสแล้วเท่านั้นนะ นับว่าเป็นเรื่องที่ดีอีกข้อหนึ่งในการพัฒนา พร้อมกับช่องมองภาพที่ใหญ่ขึ้นชัดเจน
และคอโฟกัสเองก็สามารถใช้งานกว่าแต่ก่อน เพราะมีปุ่มเลือกโฟกัสและสามารถหมุนโฟกัสผ่านด้านหน้ากล้องได้เลย มันช่วงสะดวกจริง ๆ แถมถ่าย 4K ได้ทั้งภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่งเหมือนกับ Panasonic รุ่นใหม่ ๆ
แต่เลนส์ยังคงเป็น Leica DC Vario 25-600 F2.8 ตลอดช่วง ระยะใกล้มากสุด 10 เซนติเมตร เหมือน FZ200 ทุกประการ แต่เซนเซอร์และระบบประมวลผลใหม่ พร้อมกับระบบโฟกัสแบบ DFD (Depth From Focus) ทำให้โฟกัสไวเพียง 0.07 วินที ถ่ายภาพแบบต่อเนื่องได้ 6 ภาพต่อวินาที ส่วนกันสั่นเปลี่ยนมาใช้ Power OIS Hybrid+ ถ่ายภาพสั่นยังไงก็นิ่งกว่ารุ่นเดิมอย่างชัดเจน
ขนาดของกล้องที่เปลี่ยนไปทำอะไรได้เยอะ
แน่นอนว่าถ้่านำ FZ100, FZ200 และ FZ300 มาวางเรียงกัน ขนาดมันถือว่าใหญ่โตขึ้นอย่างชัดเจน น้ำหนัก็หนักขึ้นนิดหน่อย แล้วมันทำอะไรได้เยอะกว่าเดิมก็คือ มันถือแล้วมั่นใจ ถ่ายได้นิ่งแน่นอน การปรับแต่งของ Mode กล้อวทำได้ง่าย เนื่องจากแยก Roller ออกมา 2 ตัว ซึ่งตัวแรกคือการเปลี่ยน Mode อีกตัวคือการปรับค่าเหมือนกับ FZ200 ที่มีปุ่มอยู่ใต้ปุ่ม Power แต่สัมผัสของ FZ300 นั้นกลับดีกว่า และยังมี ia Mode ที่ใช้งานง่่ายคิดไม่ออกบอกไม่ถูกก็กด และมีปุ่มซูมอยู่ด้านข้างที่ดูใหญ่ขึ้นกดง่ายขึ้นอีกด้วย คราวนี้เอาไปถ่ายดวงจันทร์ก็ไม่มีปัญหา
อะไรที่ FZ300 หายไป
จากที่นั่งสำรวจจากตัวกล้องรุ่นใหม่ แม้ว่าการทำงานภาพรวมจะไวขึ้น แต่ก็ยังมีสิ่งที่ขาดตกไป ข้อแรกคือ ไมโครโฟนในตัว ซึ่งปกติ FZ100 และ FZ200 จะมีไมค์อยู่บนหัวแม้ไม่เพิ่มก็สามารถใช้แทนกล้องวีดีโอได้ แต่สำหรับรุ่นนี้ ไม่มี ถ้าอยากได้ต้องซื้อไมค์มาเสียบ Hot Shoe เอง และความเบาความคล่องตัวก็หายไป แต่นั่นก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกสิ่งที่หายไปคือความจำในตัวกล้องรุ่นนี้ไม่มีแล้ว ดังนั้น Mem เต็มก็จบข่าว หรือลืมเม็ม ก็จบเหมือนกัน
สรุป Panasonic Lumix FZ300 ถือว่าเป็นกล้องที่สำหรับคนไม่อยากวุ่นวายอะไรในชีวิตและต้องการกล้องตัวเดียวถ่ายได้ครบทุกที่ทุกเวลาเมื่อคุณไปเที่ยว นี่ก็เป็นคำตอบได้ดีไม่น้อย แต่ราคานั้นอยู่ที่ 20,990 บาท ไม่ได้แพงกว่าที่คิดและได้เลนส์ 25-600 จาก Leica พร้อมฟีเจอร์แบบครบเครื่องขาดเพียงแค่ NFC แต่มือถือทำให้มันดูน่าคบหาอยู๋ไม่น้อย ขนาดกล้องถ้าชอบซูมเยอะและเล็กกว่าตัวนี้หน่อยต้องซื้อ FZ200 ที่หายากมากเต็มที ไม่ก็ตระกูล TZ ก็ยังได้อยู่เช่นกัน ปิดรีวิวนี้ด้วยภาพถ่ายดวงจันทร์ล่ะกัน
(ระยะสูงสุด EZ 1296 mm)
(ระยะ 25 มิลลิเมตร)
(ตัวอย่างภาพแบบ Past Focus)
ใส่ความเห็น